Welcome to Our Website

TU ปันผลทั้งปี 64 ที่ 0.95 บาทต่อหุ้น เน้นเร่งกำไร – รักษาหนี้ต่อทุน 0.99 เท่า

TU ประกาศปันผลทั้งปี 64 ที่ 0.95 บาท ตั้งเป้าปี 65 รุกธุรกิจส่วนประกอบอาหาร อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ และโปรตีนทางเลือก เน้นธุรกิจอัตรากำไรสูงสุด – รักษาปันผล และหนี้สินต่อทุนที่ 0.99 เท่า

นายธีรพงศ์ จันศิริ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TU กล่าวว่า “ในปีที่ผ่านมา ไทยยูเนี่ยนทำผลงานได้ดีเยี่ยมเป็นประวัติการณ์ท่ามกลางสถานการณ์การแพร่ระบาดที่เกิดขึ้นทั่วโลก ทั้งในแง่ของรายได้และกำไรสุทธิ จากยอดขายที่เติบโต และความสามารถในการทำกำไร ด้วยกลยุทธ์ธุรกิจระยะยาวของบริษัททำให้ธุรกิจหลักของเราแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น ในขณะเดียวกันก็ต่อยอดธุรกิจใหม่ๆ ที่เพิ่มมูลค่า

นอกจากนี้บริษัทยังเน้นในเรื่องของวินัยทางการเงินที่สร้างความสามารถในการทำกำไร และความยั่งยืน ทั้งหมดนี้ทำให้ผลประกอบการของเราในปีที่ผ่านมา ดีเยี่ยม พวกเราทุกคนที่ไทยยูเนี่ยนทุ่มเททำงานหนักเพื่อให้ธุรกิจของบริษัทดำเนินได้อย่างต่อเนื่องในทุกด้าน อีกทั้งยังผลักดันให้เกิดธุรกิจที่หลากหลายมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้ส่งผลให้เราสามารถเพิ่มการจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้น และคงอัตราส่วนหนี้สินสุทธิต่อทุน (D/E)อยู่ที่ระดับ 0.99 เท่า

ในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดนอกจากไทยยูเนี่ยนจะบริหารธุรกิจให้ผ่านวิกฤติไปได้แล้ว ทีมผู้บริหารยังมองถึงการพัฒนาธุรกิจให้มีแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม แม้ว่าจะต้องดำเนินธุรกิจท่ามกลางวิกฤติโควิด แต่ไทยยูเนี่ยนยังมองไปยังอนาคต โดยมีการลงทุนกลยุทธ์ทั้งในยุโรปและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ในปีที่ผ่านมา ซึ่งจะมีส่วนสำคัญในการเร่งการเติบโตในอนาคต ไทยยูเนี่ยนยังได้ตั้งบริษัท ไทยยูเนี่ยน ไลฟ์ไซเอนซ์ จำกัด ขึ้นเพื่อเข้ามาดูแลการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพ ส่งตรงถึงผู้บริโภค ซึ่งนับเป็นธุรกิจที่มีการเติบโตเร็ว

ในปี 2564 บริษัท ไทยยูเนี่ยน ฟีดมิลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นบริษัทในเครือยังได้จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งจะรองรับการเติบโต และขยายธุรกิจผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์น้ำในเอเชีย ไทยยูเนี่ยนยังให้ความสำคัญกับธุรกิจอาหารสัตว์เลี้ยงที่มีการเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยมีการเปลี่ยนชื่อ บริษัท สงขลาแคนนิ่ง จำกัด (มหาชน) หนึ่งในบริษัทในเครือ ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป เป็น บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เพื่อรองรับการพัฒนาและขยายกิจการในธุรกิจสินค้าอาหารสัตว์เลี้ยงและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ไทยยูเนี่ยนมีแผนจะนำบริษัท ไอ-เทล จดทะเบียนเข้าตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยและเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรกในปีนี้

ความยั่งยืนยังคงเป็นหัวใจในการดำเนินธุรกิจของไทยยูเนี่ยน บริษัทได้รับการจัดอันดับในดัชนีความยั่งยืนดาว45โจนส์เป็นปีที่ 8 ติดต่อกัน และได้รับการจัดอันดับเป็นที่ 2 ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตภัณฑ์อาหาร ในปี 2564 ไทยยูเนี่ยนได้แต่งตั้งนายอดัม เบรนนัน เป็นผู้อำนวยการกลุ่มด้านการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อเดินหน้างานด้านความยั่งยืนในฐานะผู้นำในเวทีโลกต่อไป

ในปี 2564 ไทยยูเนี่ยนได้เริ่มก้าวสู่ Blue Finance โดยเป็นบริษัทแรกๆ ในประเทศไทยที่เดินหน้าการเงินที่ส่งเสริมความยั่งยืนและตั้งเป้าหมายการทำงานที่สนับสนุนการอนุรักษ์มหาสมุทร และผลสำเร็จตามเป้าหมายจะมีผลต่ออัตราดอกเบี้ยของเครื่องมือการเงินชนิดนั้นๆ ไม่ว่าจะเป็นสินเชื่อหรือหุ้นกู้ โดยในปีที่ผ่านมาบริษัทได้รับสินเชื่อและออกหุ้นกู้ที่ส่งเสริมความยั่งยืนรวมทั้งสิ้น 27,000 ล้านบาท โดยไทยยูเนี่ยนได้ตั้งเป้าหมายระยะยาว ให้ 75 เปอร์เซ็นต์ ของเงินกู้ยืมระยะยาวของบริษัทเป็น Blue Finance ภายในปี 2568 ซึ่งเพิ่มจาก 50 เปอร์เซ็นต์ ณ สิ้นปี 2564

ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นจากการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ธุรกิจทั่วโลกต้องรับมือ ไทยยูเนี่ยนยังคงเดินหน้าให้ความสำคัญกับสุขภาพและความปลอดภัยของพนักงานทั่วโลก และดูแลสังคมและชุมชนในพื้นที่ ที่บริษัทดำเนินธุรกิจอยู่ สิ่งที่สำคัญเท่ากับการดำเนินธุรกิจก็คือ การดูแลพนักงานของเราทั่วโลก ทั้งเอเชีย แอฟริกา ยุโรปและอเมริกา ให้แข็งแรงและปลอดภัย

นอกจากนี้ นับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาดขึ้นในช่วงปลายปี 2563 ไทยยูเนี่ยนได้ริเริ่มโครงการไทยยูเนี่ยนแคร์ และได้บริจาคอาหารมากกว่า 4 ล้านชุด ทั้งอาหารสำหรับคนและสัตว์เลี้ยง รวมถึงเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ การช่วยเหลือด้านงบประมาณ ให้กับผู้ที่ประสบความยากลำบากในชุมชน และพื้นที่ต่างๆ ทั่วโลก”

สำหรับปี 2565 ไทยยูเนี่ยนยังคงเดินหน้าขยายธุรกิจโดยมุ่งเน้นในเรื่องอัตราการทำกำไรที่สูงขึ้นและธุรกิจใหม่ที่เพิ่มมูลค่า เช่น ส่วนประกอบอาหาร อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและโปรตีนทางเลือก เพื่อให้สอดรับกับตลาดที่เติบโตเร็วในธุรกิจเหล่านี้

นายธีรพงศ์ กล่าวต่อไปว่า การเดินหน้าทางธุรกิจของเราสอดรับกับเป้าหมายของไทยยูเนี่ยนที่มุ่งสร้างความเป็นอยู่ที่ดีให้กับผู้คน ควบคู่ไปกับการดูแลทรัพยากรทางทะเลให้อุดมสมบูรณ์ หรือ Healthy Living, Healthy Oceans ที่นอกจากจะตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคแล้ว เรายังมุ่งมั่นที่จะพัฒนาสินค้าเราด้วยนวัตกรรมที่ช่วยให้เราสามารถดูแลสุขภาพและความเป็นอยู่ของผู้คน”

“ในปี 2565 นี้ แม้ว่าจะยังเป็นปีที่ท้าทายสำหรับทุกคน ทั้งอัตราเงินเฟ้อ การแพร่ระบาด ห่วงโซ่อุปทาน การขาดแคลนตู้คอนเทนเนอร์ ไทยยูเนี่ยนจะยังเดินหน้าอย่างเต็มที่เพื่อสร้างผลงานให้ได้ดีเหมือนปีที่ผ่านมา”​นายธีรพงศ์ กล่าวทิ้งท้าย

อ้างอิง
https://www.bangkokbiznews.com/business